ในสไตล์ที่แท้จริงของบาร์นส์นั้น เมื่อเขาลงสู่สนาม เขาจะไม่สนใจกับสิ่งใดๆรอบตัว แต่ก็เริ่มการบรรเลงเวทย์มนต์ใส่ลูกฟุตบอลที่เท้า ด้วยการเล่นฟุตบอลเหมือนสั่งได้ดั่งใจ เขาโชว์ทักษะในการผ่านคู่ต่อสู้แบบชาวแซมบ้าของแท้ ด้วยเทคนิคแบบชาวอเมริกาใต้ ซึ่งทำให้แฟนบอลถึงกับ 'กลั้นหายใจ' แต่มันก็ทำให้กองหลังฝั่งตรงข้าม ถึงกับอยาก 'กลั้นใจตาย' ด้วยเช่นกัน และเท้าซ้ายอันสุดยอดของเขา นั่นก็ทำให้ตอนนั้น ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่หลายๆทีมคงต้องผวาเมื่อต้องเจอ เมื่อเขาเป็นผู้ดึงลิเวอร์พูล ไปสู่สถิติในการที่ไร้พ่ายติดต่อกันถึง 29นัด ในลีก และแน่นอน ปีนั้น ลิเวอร์พูลก็คว้าแชมป์สมัยที่17ไปอย่างสบายๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลย เขา จะเดินออกไปรับรางวัลผู้เล่นแห่งปีในปี87/88 อย่างสมเกียรติ แต่มันก็ช่างน่าเสียดาย ที่ความพ่ายแพ้ต่อวิมเบิลดัน ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ในปีนั้น ดับฝันที่จะได้ดับเบิ้ลแชมป์ ของเขา และเพื่อนร่วมทีมไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฤดูกาลแรกของเขากับลิเวอร์พูล จะเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดก็ตาม แต่จอห์นบาร์นส์ ก็ยังคงรักษาฟอร์มเก่งของเขาในระดับที่สูง ไว้ได้เรื่อยๆ และก็ยังคงเป็นไอดอลของเหล่าเดอะ ค็อป เสมอ ด้วยการนำพาโทรฟี่ให้หลั่งไหลเข้ามาสู่ตู้โชว์ที่แอนฟิลด์ได้เรื่อยๆ ความสำเร็จนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในปี1989 เหนือเอฟเวอร์ตัน นั้น ถือเป็นสิ่งที่ลบล้างฝันร้ายที่เวมบลีย์เมื่อ12เดือนก่อนนั้นได้อย่างดี แต่ความสำเร็จครั้งนี้ กลับเปรอะเปื้อนไป จากเหตุการณ์อัปยศ ที่ฮิลส์โบโร่ ในรอบเซมิ-ไฟน่อล และมันก็ส่งผลอย่างมาก ต่อจอห์นบาร์นส์ ไม่ต่างไปกับเหล่าผู้เล่นที่อยู่กับทีมมายาวนานคนอื่นๆ แต่มันก็กลายเป็นว่า เขาก็ไม่ได้ถูกเหยียดผิวจากชาวเมืองอีกต่อไป และใช้ชีวิตในเมืองได้ปกติ ฤดูกาลแห่งความสำเร็จอีกฤดูกาลของบาร์นส์ ในการกระชากลมหายใจของแฟนๆ คือปี1989/90 ที่เขาช่วยให้ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกอีกครั้ง โดยเขา คือผู้ทำสกอร์สูงสุด โดยการที่กระซวกไปทั้งหมด22ประตูในลีก และก็ได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นแห่งปีอีกครั้ง แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือ เขาไม่สามารถที่จะโชว์ฟอร์มอันสุดยอดอย่างที่เล่นให้กับสโมสรให้กับทีมชาติอังกฤษได้ แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องน่าเสียดายเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ผลจากความยอดเยี่ยมในการโชว์ฟอร์มกับสโมสรทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับต้นๆของยุโรปในทันที ถ้าไม่ใช่ของโลกล่ะก็นะ แต่ว่าในตอนนั้น ช่างน่าเสียดาย ที่การถูกแบนยาวในเกมยุโรปนั้น ทำให้จอห์นบาร์นส์ พลาดโอกาสที่จะโชว์ความสามารถตัวเองในเวทียุโรป ซึ่งมันก็ทำให้เขา ไม่มีโอกาสได้ไขว่คว้าเหรียญรางวัลในระดับทวีป เข้าสู่แอนฟิลด์ด้วยเช่นกัน การพลาดในการไขว่คว้าเกียรติยศในยุโรปนั้น ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นการขัดขวางถึงความส่องประกายในฐานะสุดยอดนักเตะอย่างที่เขาเป็น แต่ความสามารถในตัวเขาที่มีอยู่ ก็เพียงพอ ที่จะทำให้เขาก้าวขึ้นไปสู่หนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูลได้ อย่างที่บ็อบ เพสลี่ย์ ได้เคยกล่าวไว้ และเขา ก็สมควรแล้ว ที่จะได้รับการกล่าวขานถึงอย่างสมเกียรติ เหมือนๆกับที่เหล่าตำนานคนอื่นๆในแอนฟิลด์ได้ทำไว้ก่อนเขา ความเป็นตัวอย่างที่ดีของเขา ต้องถือเป็นต้นแบบให้เหล่าวัยรุ่นอีกหลายคนในยุคนั้น นับตั้งแต่ กัปตันทีมของลิเวอร์พูลในกลางยุค90s อย่าง เอียน รัช หรือสุดยอดผู้เล่นอย่าง สตีฟ แม็คมานามาน , เจมี่ เรดแนปป์ และรวมไปถึง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่ทุ่มเทในการซ้อม และลงเล่นเคียงข้างกับเขา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น